เก็บตกจากวชิรวิทย์ | เช็คยอดวัคซีน พร้อมเปิดประเทศแค่ไหน ?

หลังเงียบเหงามาเกือบปีจากการปิดเประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวดูเหมือนจะมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหลังนายกรัฐมนตรีขีดเส้น 120 เปิดประเทศ เมื่อวันที่ 16 มิ.. 2564 


.ภูเก็ต เป็น จังหวัดแรกที่เริ่มนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยว หรือที่เรียกว่า “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เมื่อวันที่ 1 .ที่ผ่านมา รัฐบาลตั้งเป้าเดือนต้น .เมื่อครบ120 วันหลังนายกรัฐมนตรีประกาศเอาไว้ จะทยอยเปิดหลายจังหวัดท่องเที่ยวแต่ 5 จังหวัดนำร่องรวมถึง กรุงเทพมหานคร จะเปิดเมือง 1 .. 64 ก็ถูกเลื่อนออกไปอีก 1 เดือน 


ถ้าเปิดกรุงเทพมหานครได้ ก็เท่ากับการเปิดประเทศ เพราะเมืองหลวงเป็นเหมือนประตูด่านหน้ารับนักท่องเที่ยว แต่จนถึงวันนี้ประเมินจากสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อ ประกอบกับ ยอดการฉีดวัคซีน ทำให้นายกรัฐมนตรียังลังเล 


อย่างไรก็ตาม จากมติ ศบคเมื่อวันที่ 27 .นอกจากจะผ่อนคลายหลายมาตรการในพื้นที่สีแดงเข้ม โดยเฉพาะลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 22.00 - 04.00 แล้ว


ที่มาพร้อมกันคือ ปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร

โดยปรับลดระยะเวลาในการกักกันสำหรับผู้มีเอกสารวัคซีนโควิด-19 ครบ เหลือวัน ในส่วนผู้ที่ยังไม่มีเอกสารวัคซีน ให้กักตัว ตั้งแต่ 10-14 วัน สำหรับการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศกักตัว 7 วัน ทางน้ำและทางบก กักตัว 10-14 วัน


และเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว เพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 1-31 .ได้แก่เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า .สุราษฎร์ธานี เขาหลัก เกาะยาว .พังงา และเกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก .กระบี่ 


ขณะที่อีก 10 จังหวัดจะเริ่ม 1 .ได้แก่ กรุงเทพมหานคร .กระบี่ .พังงา (ทั้งจังหวัด.ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน หนองแก.เพชรบุรี (ชะอำ.ชลบุรี (พัทยาบางละมุง จอมเทียน บางเสร่.ระนอง เกาะพยาม .เชียงใหม่ (.เมือง แม่ริมแม่แตง ดอยเต่า.เลย (เชียงคานและ .บุรีรัมย์ (เมือง)


ข้อมูล 28 ก.ย. 2564 เวลา 12.08 น. กระทรวงสาธารณสุข

 

ภาพรวมการฉีดวัคซีนทั้งประเทศ​ 2 เข็ม

ฉีดสะสม 18,663,607 คน

คิดเป็น 27.78%

 

  •  กรกฎาคม 2564 เปิด ภูเก็ตแซนบ็อกซ์ 

จังหวัด

ยอดการฉีดวัคซีน 

ภูเก็ต

ฉีดสะสม 407,736 คน

คิดเป็น 82.90%

 

 

  •  1-31 ตุลาคม เปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว เพิ่มเติม จังหวัด

จังหวัด

ยอดการฉีดวัคซีนเข็ม 2

สุราษฎร์ธานี

-        เกาะสมุย 

-        เกาะพะงัน 

-        เกาะเต่า

 

ฉีดสะสม 318,326 คน

คิดเป็น 28.95%

พังงา

-        เขาหลัก 

-        เกาะยาว

ฉีดสะสม 126,332 คน

คิดเป็น 48.88%

กระบี่

-        เกาะพีพี 

-        เกาะไหง 

-        ไร่เลย์ 

-        คลองม่วง 

-        ทับแขก

 

ฉีดสะสม 128,072 คน

คิดเป็น 27.11%

 

  •   1 พฤศจิกายน 2564 เปิดพื้นที่เพิ่มเติม 10 จังหวัด 

จังหวัด

ยอดการฉีดวัคซีน

กรุงเทพมหานคร

ฉีดสะสม 3,788,684 คน

คิดเป็น 47.78% 

กระบี่ (ทั้งจังหวัด)

ฉีดสะสม 128,072 คน

คิดเป็น 27.11%

พังงา (ทั้งจังหวัด) 

ฉีดสะสม 126,332 คน

คิดเป็น 48.88%

ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน หนองแก) 

ฉีดสะสม 187,028 คน

คิดเป็น 33.35%

เพชรบุรี (ชะอำ) 

ฉีดสะสม 168,130 คน

คิดเป็น 36.13%

ชลบุรี (พัทยา บางละมุง จอมเทียน บางเสร่) 

ฉีดสะสม 752,957 คน

คิดเป็น 32.33%

ระนอง (เกาะพยาม)

ฉีดสะสม 96,677 คน

คิดเป็น 47.52%

เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า)

ฉีดสะสม 404,238 คน

คิดเป็น 21.35%

เลย (เชียงคาน) 

ฉีดสะสม 115,557 คน

คิดเป็น 19.27%

บุรีรัมย์ (เมือง)

ฉีดสะสม 440,949 คน

คิดเป็น 32.61%

 


สื่อต่างชาติรายงานข่าวความพยายามในการเปิดประเทศในภูมิภาคอาเซียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยว่า หลังผ่านจุดพีคของการแพร่ระบาดไปได้ไม่นาน และอัตราการฉีดวัคซีนในบางพื้นที่ยังคงต่ำ แต่ประเทศไทยกำลังมองหาแนวทางในการเปิดประเทศอีกครั้งเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยว


ทว่า ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งมองว่าหากอัตราการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงยังคงไม่มากพอ แต่หลายประเทศเลือกที่จะยกเลิกข้อจำกัด หรือผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค อาจทำให้ระบบสาธารณสุขในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าสู่สภาวะตึงตัวอย่างรวดเร็ว และมีความเสี่ยงมากกว่าชาติตะวันตกที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงกว่ามาก จึงทำให้อัตราการเสียชีวิตและการรักษาในโรงพยาบาลยังคงต่ำแม้จะเปิดประเทศแล้ว


ด้าน นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค ในฐานะนักระบาดวิทยาบอกว่าความสมดุลระหว่างการควบคุมโรคกับการฟื้นฟูเศรษฐต้องไปพร้อมกัน 


ความเห็นส่วนตัวของ นพ.คำนวณ มองว่าการกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติมากไปเกินไปจะทำให้การตัดสินมาเที่ยวเมืองไทยลดลงด้วยซ้ำ สิ่งที่ต้องคัดกรองนักท่องเที่ยวคือตรวจสอบว่ามีการวัคซีนครบแล้วหรือไม่ จะทำให้การเปิดประเทศปลอดภัย ขณะเดียวกันหากเปิดประเทศแล้วมีการระบาด อาจไม่เกิดความสูญเสียมากกว่าการระบาดระลอกที่ผ่านมา เพราะกลุ่มเสี่ยงได้ฉีดวัคซีนไปมากแล้ว 


#เก็บตกจากวชิรวิทย์ ตรวจสอบข้อมูลการฉีดวัคซีนพบว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรังได้รับวัคซีนไปแล้ว 16.21 ล้านคน จากเป้าหมาย 17 ล้านคน


  • ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนแล้ว 9.97 ล้านคน
  • ผู้มีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนแล้ว 6.24 ล้านคน 


ขณะที่ภาพรวมการฉีดวัคซีนของไทยทั้งประเทศมีผู้ฉีดวัคซีน 2 เข็ม

  • ฉีดสะสม 18,663,607 คน คิดเป็น 27.78% 
  • โดยจ.ภูเก็ตมียอดฉีดวัคซีน 2 เข็มมากที่สุดถึง 82.90% 
  • แต่ 3 จังหวัดที่เปิดรับท่องเที่ยวบางพื้นที่ ยังมีสัดส่วนการฉีดวัคซีนที่ต่ำกว่า 50% 
  • ส่วนกรุงเทพมหานครที่จะเปิดเมืองวันที่ 1 ..นี้ มีสัดการฉีดวัคซีนล่าสุด 47.78%


กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้วันเกือบ 1 ล้านโดส ขณะเดียวกันจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงต่อเนื่องจึงตัดสินใจปิดโรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามขนาดใหญ่กว่า 3,000 เตียงลงไปแล้ว 


เพื่อให้การเปิดประเทศเป็นไปอย่างปลอดภัย องค์การอนามัยโลก พยายามวางหลักเกณฑ์ตัวชี้ ให้แน่ใจว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ รวมถึงมีระบบสาธารณสุขที่สามารถตรวจคัดกรองและรองรับผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอแต่ต้องยอมรับว่าบางประเทศไม่เป็นไปตามมาตรฐานเหล่านี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง


ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปิดประเทศและฟื้นฟูการท่องเที่ยวเป็นทางออกเดียวของ ผู้ประกอบการ และพยุงอัตราการจ้างงาน 

ความคิดเห็น