เปิดมุมมอง ”ปธ.อาวุโส หอการค้า แม่ฮ่องสอน“ แก้ปากท้อง=แก้หมอกควัน | เก็บตกจากวชิรวิทย์
เผาป่าเก็บเห็ดเงินสะพัดเฉียดล้านบาท สุญญากาศเศรษฐกิจแม่ฮ่องสอน ปีละ 2-3 เดือน กระทบท่องเที่ยวรายได้หลัก ยอมรับจังหวัดเล็กเสียงไม่ดังเท่าจังหวัดใหญ่
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 ชนเขต บุญญขันธ์ ประธานอาวุโสหอการค้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้สัมภาษณ์ #เก็บตกจากวชิรวิทย์ ว่าช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี เป็นห้วงเวลาแห่งการฤดูหมอกควันไฟป่าของพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดนผลกระทบอย่างหนักทุกปี และบางคนมองว่าเป็นการเผาเตรียมพื้นที่การเกษตร พืชเชิงเดี่ยว แต่หลักๆก็มีการเผาป่าจริงๆด้วย ดังนั้นทุกปีในห้วงเวลานี้คนแม่ฮ่องสอนเราจะรู้และเตรียมการรับมือเท่าที่จะสามารถทำได้
มีความพยายามในการแก้ปัญหามาตลอดทุกปี เกิดขึ้นซ้ำทุกปี คาดหวังว่าต้องได้รับการแก้ไขได้แล้ว เพราะก็รู้ว่าปีหน้าเวลาเดิม ก็จะวนกลับมาแต่เมื่อฝนมาฟ้าเปิด ทุกคนก็จะยุ่งกับการทำมาหากินจนลืมไปว่าช่วงเวลาที่หนักหน่วงที่สุดที่ผ่านมามันเป็นยังไง แล้วปีหน้าทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม
![]() |
ชนเขต บุญญขันธ์ ประธานอาวุโสหอการค้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน |
ชนเขต บอกว่า เรื่องผลกระทบทางสุขภาพเป็นตัวชูโรง ทราบดีว่าหมอกควันไม่ดีต่อสุขภาพ แต่อย่าลืมว่าคนกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการสื่อสารมีหลากหลาย พนักงานออฟฟิศ ข้าราชการ คนที่พอจะเข้าใจเรื่องสุขภาพก็หลีกเลี่ยงหาทางปกป้องตัวเอง มีห้องปิด มีเครื่องฟอกอากาศ เป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพ แต่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีกลุ่มอื่นๆอีกที่อาจจะไม่ได้เข้าถึงเครื่องฟอกอากาศ เข้าถึงความสะดวกสบาย เป็นกลุ่มต้นทาง เกษตรกร ชาวบ้าน คนในชุมชนซึ่งสำหรับเขาเรื่องปากท้อง สำคัญกว่าเรื่องสุขภาพ
“หมอกควันไฟป่าเยอะคุณควรจะอยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องไปไร่ ไปสวน เป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่าถ้าเราอยากจะแก้ปัญหาให้กับชุมชน เราต้องไปแก้เรื่องปากท้องให้เขาก่อนอันดับแรก เพราะเศรษฐกิจครัวเรือนสำคัญกว่าสุขภาพสำหรับเขา บ้านเรือนก็ไม่ได้มีห้องปิด ควันก็ผ่านเข้ามา ดังนั้นเราจะไปบอกว่าต้องใส่แมสเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาต้องทำมาหากินจะให้เขาลดเผา ก็ยิ่งยากเพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องดูว่าเหตุผลที่เขาเผาคืออะไร เขาเผาเพราะเรื่องปากท้อง เขาเผาเพราะมันคือวิถีทางในการทำมาหากิน”
หาทางเลือกให้ชาวบ้านแทนเผาป่า
ชนเขต บอกว่า พ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นความหวังในสถานการณ์ที่เราไม่มีความหวังอื่นเลย ถ้ามีการใช้จริงมันจะทำให้สถานการณ์ต่างๆดีขึ้นเพราะอย่างน้อยคนทั่วไปก็ควรมีสิทธิ์เข้าถึงอากาศสะอาดโดยพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ถามว่าคาดหวังขนาดไหน อย่างที่บอกว่าเราก็ต้องแก้ปัญหาณ ตอนนี้ไปด้วย ปัญหาปากท้องของเกษตรกร อาจเหนือ พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่มันเป็นเรื่องที่ควรจะเข้าไปดูแลอย่างต่อเนื่อง ปัญหาแบบนี้มันเกิดซ้ำๆทุกปี ควรจะมีคณะทำงาน ที่ทำงานเรื่องนี้ตลอดทั้งปีมากกว่าแค่เข้ามาเทคแอ็คชั่น เมื่อควันมา
“ควรจะมีคณะทำงานที่ทำเรื่องนี้ทั้งปี ต่อให้ฝนมาอากาศดี ก็ยังต้องพูดคุยกันเรื่องนี้ เพื่อที่ว่าเราจะได้เตรียมตัวว่าเราปีหน้าเราจะเอายังไง แล้วการเข้าหาชุมชนมันไม่ง่าย ต้องสร้างผู้นำชุมชน คุยกับคนที่ชาวบ้านพร้อมฟัง”
หลายครั้งชาวบ้าน โดนเบลมจากสังคมว่า เป็นกลุ่มคนที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เหล่านี้ดังนั้นเราอาจจะต้องเข้าไปแก้ให้มันถูกจุด หากโทษกันไปโทษกันมา ก่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างกัน แล้วก็จะมีการเผาแกล้ง เรามีความหวังเรื่อง พ.ร.บ.อากาศสะอาดส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนทุกอย่างก็ต้องเดินไปคู่กัน
ต้องสร้างงาน สร้างอาชีพทางเลือก ถ้าเราจะให้เขาเลิกปลูกพืชเชิงเดี่ยว ถ้าเราจะไม่ให้เขาเผาป่า อย่าลืมว่าการเผาป่าตามความเชื่อของชุมชนชาวบ้าน เมื่อเผาแล้วหน้าฝนจะได้เห็ดเผาะ ผักหวานป่า ไข่มดแดง สุดท้ายกลับมาเรื่องปากท้องกลับมา เรื่องเศรษฐกิจครัวเรือน เขาเผาเพราะมีความหวังว่า ฉันจะมีของที่หาจากป่าไปขาย และได้เงินเข้ามาจุนเจือครอบครัว
ดังนั้นต้องหาอาชีพทางเลือกให้เขาด้วยอย่าห้ามอย่างเดียว แต่ไม่ได้มีอาชีพทางเลือกให้เขา แล้วเขาจะกินอะไร เคยมีคนบอกว่าให้ปลูกพืชเศรษฐกิจทดแทนพืชเชิงเดี่ยว เช่นปลูกไผ่ ปลูกผลไม้ ปลูกทุเรียน แต่อย่าลืมว่าไม้ยืนต้นเหล่านี้ มันใช้เวลาสี่ห้าปีกว่าจะเห็นเงิน แล้วช่วงสี่ห้าปีเขาจะกินอะไร อย่างที่บอกว่าเก็บเห็ดเผาะ บางหมู่บ้านหนึ่งได้เป็นหลักหลายแสนบาท ได้เป็นล้านบาท ต้องใช้คำนี้ว่า “มันเป็นเงินที่มันสะพัดมาก”
แก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน
ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบุว่า ด้วยสภาพพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว จุดความร้อนไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทย อย่างปีนี้เชียงรายทำได้ดีมาก จุดความร้อนแทบไม่มีเลย แต่สุดท้ายคนในจังหวัดเชียงรายก็ยังได้รับผลกระทบจากหมอกควันไฟป่าอยู่ดี เพราะควันลอยมาจากทุกที่ เราไม่เผาข้างบ้านเราเผาก็เหมือนกัน
ต่อให้ประเทศไทยควบคุมไฟป่าได้ 100% แต่การย้ายฐานการผลิตไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ก็ก่อให้เกิดการเผา สุดท้ายควันก็กลับเข้ามาในบ้านเราอยู่ดี ดังนั้นรัฐบาลคือความหวังของเรา รัฐบาลจะคุยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร จัดการอย่างไรไม่ให้เกิดการเผา และในกรณีที่มีการโยกย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลก็จะต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแลบริษัทต่างๆ ที่ย้ายฐานการผลิตไปเพื่อนบ้าน
“เป็นอะไรที่ในฐานะประชาชนตัวเล็กๆคนหนึ่ง ก็ยังมีความคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีแนวทางการบริหารจัดการได้ดีกว่า นี้เพราะอย่างที่บอกว่าปัญหาที่มันเกิดซ้ำทุกปีเราอยู่รู้อยู่แล้วปีหน้าก็ต้องเกิด” ชนเขตกล่าวและบอกว่า การวางแผนรับมือ น่าจะเป็นบลูปริ้นเป็นเอกสารออกมาเป็นแนวทางปฏิบัติจริงว่าข้อ 1,2,3,4 ห้ามทำอะไร เพราะไม่ใช่ปัญหาใหม่
ช่วงสุญญากาศเศรษฐกิจแม่ฮ่องสอน
ชนเขต บอกอีกว่า เศรษฐกิจแม่ฮ่องสอน เหมือนสุญญากาศทุกๆปี ปีละ 2-3 เดือน กระทบการท่องเที่ยว ในฐานะหอการค้า เป็นภาคเอกชนที่รวมตัวกันเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ อะไรก็ตามที่เป็นปัจจัยทำให้เศรษฐกิจทดถอยในแต่ละช่วง ก็คือความรับผิดชอบของหอการค้าที่เราจะต้องเทคแอ็คชั่นในนามของภาคเอกชน
ห้วงเวลาแบบนี้ เป็นช่วงที่เศรษฐกิจภาคเหนือทดถอยมาก คนก็ไม่มาเที่ยว เพราะว่าเขาก็หลีกเลี่ยงอากาศที่ไม่ดี กระทบทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ภาคเกษตรด้วย ถ้าเราอยากจะทำให้เศรษฐกิจของบ้านเราดีขึ้น เราจะช่วยกันยังไง ก็เลยนำมาสู่การผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เชื่อว่ามีกฎหมายนี้แล้วอย่างน้อยคนก็เข้าถึงอากาศสะอาด อาจจะทำให้ภาพรวมดีขึ้น เศรษฐกิจก็ดีขึ้นด้วย
”แม่ฮ่องสอนยกเลิกเที่ยวบิน เพราะหมอกควันหนาลงไม่ได้ แต่รายได้หลักของจังหวัดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจากภาคการท่องเที่ยว เมื่อไม่มีคนมาเที่ยว ก็ทำให้เศรษฐกิจของบ้านเรา ถดถอยลงแล้วคนก็จะมาอีกทีช่วงฤดูหนาว“
แม่ฮ่องสอน จังหวัดที่ถูกลืม?
”ถามว่าเราถูกลืมไหม ต้องใช้คำว่าเขามีพื้นที่สื่อมากกว่าอย่างจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบเหมือนกัน เพียงแต่ว่าใครจะอยู่ในพื้นที่สื่อมากกว่ากัน พอจังหวัดใหญ่ที่มีคนเยอะก็มีนักข่าวโซเชียลอยู่แล้วส่งข้อมูลเข้าไป ตอกย้ำว่าเชียงใหม่ๆๆ เยอะตอนนี้“ ชนเขต กล่าวและบอกว่า แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่พอเรามีการสื่อสารเข้าไปทุกคนก็ทราบเพียงแต่ว่า การจัดการมันอาจจะไม่ทันท่วงที หรือเทคแอ็คชั่นไม่ไวเท่าจังหวัดเชียงใหม่ที่ความพร้อมของบุคลากรมีมากกว่า
พื้นที่แม่ฮ่องสอนภาครัฐก็ทำงานเต็มที่แล้ว เห็นทุกปีหน่วยดับไฟป่า ทสจ. จังหวัด ทุกคนทำงานกันเต็มที่มากๆ แต่ถ้าถามว่าเราถูกลืมไหม ”เราไม่ถูกลืมหรอก แต่ว่าการเทคแอ็คชั่นมันอาจจะไม่ได้อิมแพ็คใหญ่เท่าจังหวัดใหญ่ รวมถึงการจัดสรรงบประมาณด้วย พอเป็นจังหวัดใหญ่การจัดสรรงบประมาณบุคลากร ก็มีมากกว่า“
มุมมองส่วนตัวของภาคเอกชนที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้มาตลอด เรายังไม่เห็นรัฐบาลไหนแก้ปัญหาหมอกควันสำเร็จเลย เรามีความคาดหวังว่ารัฐบาลจะต้องดูแล เราก็ดูแลตัวเองในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่เราก็มีความคาดหวังว่ารัฐบาลอาจจะต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาที่มัน Impact จริงๆที่มันเป็นรูปธรรมจริงๆมากขึ้นกว่านี้
”ถ้าถามว่ามุมมองต่อรัฐบาลนี้เป็นยังไง ตอบว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมายังไม่มีใครทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ และยังเป็นความคาดหวังของภาคเอกชน ประชาชน ประชาสังคมว่า วันหนึ่งจะต้องมีมาตรการในการทำตรงนี้ให้สำเร็จออกมาได้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนก็แล้วแต่“
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น