เก็บตกจากวชิรวิทย์ | เปิดแนวทางการจัดการความทรงจำ​ และการสร้างความทรงจำใหม่​

ถนนหนทางยังเหมือนเดิม มีพัฒนาขึ้นมาเล็กน้อย​ บ้านหลังนั้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก มีแต่สมาชิกในบ้านตัวน้อยวัย​ 6​ เดือนที่เพิ่มขึ้นมา​ 

หน้าที่การงานของแต่ละคนเปลี่ยนไป​ (รวมถึงตัวฉันเอง)​ หลายคนที่ฉันรู้จักเดินทางกลับบ้านเกิด​ เพราะกรุงเทพ​ไม่ใช่ที่มั่นหมายจากเศรษฐกิจ​ที่ซบเซา​ แล้วกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ด้วยความลงตัว และไม่เงียบเหงา​

คนอีกคนหลายคน​ และสิ่งอีกหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว​ วันเวลาผลักดันให้หลายอย่างเดินไปข้างหน้า แต่ความทรงจำก็คือความทรงจำ ที่ต้องยอมรับว่าไม่สามารถลืม​ หรือกำจัดไปได้

"ความรักที่ล้มเหลว" คือความเจ็บปวดของความทรงจำชนิดหนึ่ง ถ้าลืมทุกอย่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์นั้นได้ ก็คงจะไม่มีความเจ็บปวด​

เวลาที่ผ่านมาเรื่อยๆ​ ฉันได้สร้างความทรงจำใหม่เข้าแทนที่ ความเจ็บปวดนั้นไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยการลืม​ หากแต่อยู่ร่วมกันกับความทรงจำใหม่ที่สร้างขึ้นมาตามกาลเวลา​ ที่เดินไปข้างหน้า​ แล้วไม่เดินย้อนกลับ

เขาคนนั้นเคยบอกกับฉันวันนั้นว่า "ก็แค่เพียงขอให้ฉันใช้ชีวิตของฉันอย่างเดิม​ อย่างที่​เคยเป็นมา​ ถ้าลืมได้ก็ยิ่งดี" แต่ปัญหาก็คือ มันลืมไม่ได้ ยิ่งพยายามลืม ก็ดูเหมือนจะยิ่งจำได้

ในที่สุดช่วง 2-3 ปีก็เข้าใจว่า จริงๆแล้ว​ การลืมคนรักเป็นเรื่องลวงโลก​ และเราจำได้แทบทุกสิ่งอย่าง​ เพียงแต่แสร้งว่าลืม​ หรือหลอกตัวเองไปต่างๆนานา​ เช่น อยู่คนละมิติเวลาบ้าง อยู่คนละโลกคู่ขนานบ้าง​ หรือเขาตายจากเราไปแล้วบ้าง ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ท้ายที่สุด​ มันเป็นเรื่อง​ "การจัดการความทรงจำ" ​ ไม่ใช่กำจัด​ หรือเปลี่ยนความทรงจำ​ แล้วอยู่กับมัน​ (ความจริง)​ ให้ได้

การสร้างความทรงจำใหม่เข้าแทนที่ ตามเวลาที่เคลื่อนหมุนไป เป็นสิ่งที่เยียวยาความทรงจำในอดีตได้​ โดยไม่ต้องลืม​อย่างเป็นธรรมชาติ

แล้วเชื่อหรือไม่ว่า​ ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา​ หลายอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนี้ นั่นหมายความว่า​ มันจะเปลี่ยนไปอีก เปลี่ยนไปมากกว่านี้อีก

สำหรับฉันวันนี้! โครงสร้างการเล่าเรื่องละครแบบไทยๆ ที่ฉันคุ้นชิน​ ถูกแทนที่ด้วยวัฒนธรรมตัวละครแบบเกาหลี​ วิธีคิดฉันก็เปลี่ยนไป​ เพลงที่เขาชอบและฉันเคยชอบถูกแทนที่ด้วยเพลงใหม่ๆในภาษาที่ต่างไป ความชอบแบบเดิมๆ​ หรือความชอบแบบที่พยายาม​เคยชอบ​ ถูกแทนที่ด้วยไลฟ์ส​ไตล์ความชอบใหม่ๆ​ 

ใช่แล้ว! ฉันกำลังกลับมาใช้ชีวิตเดิม​ อย่างเขาเคยบอก​ แต่มันก็ใช้เวลานานเหมือนกัน​นะ

ความทรงจำใหม่ๆ ของฉัน​ มันน่าท้าทายมาก​ ที่ของใหม่ถูกสร้างทับซ้อนอยู่กับของเดิมได้​ อย่างสมดุล​ 

My​ Note

25 -​ 28 กรกฎาคม​ พ.ศ.​2563​ ช่วงวันหยุดยาว รวมกับวันหยุดชดเชยสงกรานต์​ ในวันที่ 27 ฉันเดินทางไปในจังหวัดน่าน​ เพื่อพบกับคนกลุ่มต่างๆที่ฉันรู้จัก​ มันเป็นมิตรภาพที่ดีงามและพวกเขาก็ต้อนรับฉันอย่างอบอุ่น​เหมือนทุก​ๆครั้ง

ตรงนี้คือกิ่วม่วง พี่คนหนึ่งขับรถพาฉันและเพื่อนที่บางคนก็เพิ่งรู้จัก​ บางคนก็รู้จักกันนานแล้ว​ตั้งแต่ตอนนั้น​ เราขับรถไปในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็มาถึง​ เราได้นั่งจิบเบียร์กันท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงาม แล้วคุยกันอย่างสนุกสนาน

อีกวันต่อมา​ ผู้หญิงคนข้ามเพศคนหนึ่งเลี้ยงหลาน วัย 3 ขวบ​ และ 7 ขวบ​ เด็กผู้ชายวัย 3 ขวบดื้อมาก​ แต่เขาก็ดูจะติดฉันมากด้วยเหมือนกัน เด็กๆเหล่านี้​ ถ้าฉันกลับมาที่นี่อีก​ ก็จะยิ่งโตขึ้น   หน้าตาคงจะต้องเปลี่ยนไปในอีก 2-3 ปีต่อมา

สามี​ ภรรยา​ คู่หนึ่ง​ที่ฉันรู้จักตั้งแต่เขาและเธอยังเป็นนักศึกษา​​ ในที่สุดก็ใช้ชีวิตร่วมหัวจมท้ายกัน​ มีลูกสาวตัวเล็ก​กำลังน่ารัก​ คนเป็นแม่บอกว่า​ "ถ้าพี่มีลูกพี่จะรู้ว่าการรักชีวิตคนอื่นมากกว่าชีวิตตัวเองมันเป็นยังไง" 

ฉันได้ยินแบบนี้ก็เบาใจ​ และเชื่อว่าต่อให้หนทางข้างหน้าจะยากลำบากแค่ไหน​ พ่อและแม่คู่นี้จะต้องเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีได้อย่างแน่นอน​ 

แต่ดูเหมือนว่าการปาร์ตี้สังสรรค์จะไม่เปลี่ยนไปเลย ทุกคนยังกินดุเหมือนเดิม



ความคิดเห็น